ไปใหนดีคะ หนังสือนำเที่ยวหลายเล่มมักจะแนะนำให้เราตื่นเช้าๆเพื่อส่องวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ก็เป็นความคิดและข้อเสนอที่น่าสนใจ หลายเช้าที่เกียวโตเราตื่นสายนะ นอกจากเวลาที่เร็วกว่าเมืองไทยสองชั่วโมงแล้ว เราก็มักจะอ้อยอิ่งบนฟูกนุ่นๆแอร์เย็นๆ ตื่นมาจิบชาเขียวหอมกรุ่น ห้องที่เราพักเรียบง่ายมาก ไร้เฟอร์นิเจอร์ ความเรียบของห้องและโทนสีธรรมชาติบวกกับบรรยากาศความสงบเงียบและแดดเช้าแบบนี้ รู้สึกแปลกๆถึงแรงซึมซาบพลังบวกของชีวิต
เราตื่นเช้ากว่าปรกติก เดินออกมาไม่ไกลจากเรือนพักมีร้านกาแฟที่เปิด 7 โมงเช้าในวันอาทิตย์ด้วย ป้ายหน้าร้านเป็นภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ “Conleche Cafe”พร้อมรูปถ้วยกาแฟ อือไม่น่าจะเข้าผิดนะปรับสายตาสักแป๊ปก็รู้สึกคุ้นๆว่าเหมือนผับในยุโรปผสมกลิ่นอายญี่ปุ่น ทราบภายหลังชื่อร้านเป็นภาษาเสปน สองโต๊ะริมหน้าต่างว่างเราเลือกเป็นที่นั่ง ทุกคนในร้านหันพรั่บมาทางเรา เลยแก้เขินด้วยทักทายเป็น Ohayo! รู้สึกแปลกๆสักพักบริการบอกว่าเช้านี้จะมีงานแสดง โต๊ะนี้เว้นไว้เฉพาะการ เราเลยไปขอร่วมโต๊ะกับหนุ่มญี่ปุ่นพร้อมสั่งกาแฟและอาหารเช้า บริกรบอกว่า วันนี้บริการเฉพาะกาแฟและขนมปังครัวซองเท่านั้น จริงๆมารู้ทีหลังว่าโชว์นี้มีค่าเข้าชมด้วย บริกรคงเกรงใจไม่กล้าบอกเราและคงรู้ได้ว่าเราฟังไม่รู้เรื่องเลยปล่อยให้นั่งไป เรื่องที่แสดงเราคุ้นว่าเป็นบทละครของเช็คสเปีย ” As You Like It ” จุ๊ๆๆ…..อย่าเอะไปเดียวเขาหาว่าเราขี้โกง และเราก็ถึงบางอ้อที่ทุกคนหันพรั่บมาทางเราเพราะเช่นเดียวกันเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา นั่งแมะพร้อมคุยโทรศัพท์เสียงดัง แหมเปิดการแสดงเรียกความสนใจได้แจ่มมากเลย