พระมหาเจดีย์ชัยมงคล,ร้อยเอ็ด Maha Chedi ChaimongKol, Roi-Et

มหาเจดีย์ฯมองจากมุมหลังวัด

“พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทางจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 80 ก.ม มีลักษณะเป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสมกันระหว่างพระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม ใช้งบประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

พระมหาเจดีย์ชัยมงคลออกแบบโดยกรมศิลปากร เป็นสีขาวตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศสร้าง ในเนื้อที่ 101 ไร่ กว้าง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร รวมยอดทองคำเป็น 109เมตร ใช้ทอง คำหนัก 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในองค์พระมหาเจดีย์เหมือน อยู่บนวิมานแดนสวรรค์” วิกกีพีเดียบอกไว้อย่างนี้ ตอนที่เราเก็บข้อมูลการเดินทาง จินตนาการแล้วคนที่ไม่สนใจถาวรวัตถุสถานอย่างเรา ยังอยากจะแวะชมสักครั้ง เราตัดสินใจเลือกแวะชมแทนไปเยี่ยมชมหมู่บ้านหัตกรรม

โถงทางเข้า และบรรไดขึ้นภายในเจดีย์

ภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นเขาลูกเตี้ยๆกระจัดกระจาย จากถนนเส้นที่เราเดินทางจึงมองเห็นมหาเจดีย์โหญ่โตบนเขามาแต่ไกล ถนนลาดยางสองเลนสภาพดีมากและมีรถเข้าออกกันขวักไขว่ มีลานจอดรถและร้านขายของมากมาย แล้วต้องเดินขึ้นบรรไดขึ้นเขาอีกหลายร้อยขั้น แต่เราขับออ้อมเขาขึ้นไปเข้าประตูหลังวัดและทางเข้าเขตอุทยาน 

คงต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปีนะคะกว่าจะเสร็จสมบุรณ์และคงต้องใช้เงินมหาศาลในการก่อสร้าง เติมแต่งและดูแลรักษาด้วยทราบมาว่าเริ่มก่อสร้างมาเกือบสามสิบปีแล้ว มิน่าผ่านหลายหมู่บ้านมีป้ายปิดตลอด “ห้ามเรี่ยราย” วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างบอกไว้สำหรับเป็นที่ทำกิจกรรมวิปัสนากรรมฐานและศูนย์รวบรวมสะสมปฏิมากรรมพุทธรูปปางต่างๆ รูปปั้น รูปภาพพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ตามความเชื่อความศรัทธาส่วนบุคคล คนคิดคนต่างมุมมอง การเปิดโอกาศให้ตัวเองได้รู้และสัมผัสแล้วนำมาตัดสินเอง หากผ่านมาทางนี้แวะดูกันเองคะ

พิพิธภัณฑ์สิรินธร Sirindhorn Museum or Phu Kum Khao Dinosaur Museum

ออกจากสนามบินอุดรธานีและจัดการอาหารเช้าแล้ว จุดหมายปลายทางของวันนี้คือจังหวัดมุกดาหาร นึกถึงระยะทางแล้วไม่สนุกเท่ากับระหว่าทางเราจะเจออะไรบ้าง หลังจากจับทางหลวงหมายเลข 2 มาสักพักเราก็เลือกเข้าทางหลวงชนบทสองเลน สองข้างทางคือพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนชนบท บางช่วงราดยาง บางช่วงทางขาดเป็นหลุมเป็นบ่อและผ่านหมู่บ้าน คนนอกและผู้ผ่านทางอย่างเรามองว่าช่างเป็นภาพสวยงาม เขตแดนระหว่างเข้าจังหวัดกาฬสินธุ์เจอป้อมตำรวจตรวจและซักถามผู้ขับขี่อย่างแข็งขันข้างๆกันคือซุ้มเพิงหมาแหงนขายข้าวโพดต้ม มันต้มฯลฯ

เรามุ่งหน้าตามพิกัดที่มาร์คไว้ แต่จนได้ขับเลยป้ายเล็กทางเข้าพิพิธภัณฑ์สิรินธร โชคดีตาไวเห็นรูปปั้นไดโนเสาร์ต้องวกกลับมาเข้าถนนสายเล็กต่อสักพักก็เจอ วันนี้ 2 เมษายนเป็นวันคล้ายวันพระราชสมของพระองค์ท่าน พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมฟรี เราถึงก่อนเที่ยงนิดหน่อย จึงเห็นเด็กๆขึ้นรถบัสกลับกัน ในพิพิธภัณฑ์จึงโล่งและเดินดูนิทัศการได้สะดวก ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.sdm.dmr.go.th

ได้ความรู้ว่าอีสานเป็นถิ่นดึกดำบรรพ์ ดินแดนต้นกำเนิดอารยธรรม เช่นบ้านเชียงและที่นี่ค้นพบกระโูกไดโนเสาร์และมีการตั้งนามหลายชนิด ตื่นตาตื่นใจกับหุ่นจำลอง และโครงกระดูก พร้อมห้องแลปและ นิทัศการอื่นๆด้วย ทั้งนี้ด้านนอกยังเป็นสวนเขียวขจีร่มรื่นเช่นกันคะ เหมาะสำหรับครอบครัวพาเด็กๆมาเที่ยวนะคะ ก่อนเดินทางต่อเราแวะกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารใต้อาคาร อร่อยพร้อมแอร์เย็นๆ ไม่แวะซื้อของฝากอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงลานจอดรถ

E-Saan Round Trip, Udo to Ubon

ไปอีสาน..ไปใหนดีล่ะ อีสานพื้นที่กว้างมาก เอาให้แคบลงเราเริ่มจากปลายทางที่เป็นไฮไลท์ที่อยากไปเห็นก่อนตาย ก่อนล่ะกัน555… “สามพันโบก-ผาแต้ม ” เราเลือกไปช่วงหน้าร้อนคือต้นเดือนเมษายนก่อนสงกรานต์ (2-7) สามพันโบกจังหวัดอุบลราชธานี เป็นช่วงน้ำแม่โขงลงจะเห็นโบกและริมตลิ่งแม่โขงอย่างที่ตั้งใจ ถึงแม้เพื่อนคนอีสานแท้ๆยังแหยงว่าอากาศจะร้อนแดดจะแรงเกินไปหรือเปล่า  วัดใจกันวัดกายกันคะสรุปว่าเป็นทริปที่สนุกมากคะ ในการเดินทางครั้งแรกเราเลือกขับรถเที่ยวเองโดยเช่ารถจากบริษัทเอวิส ที่สนามบินเส้นทางเกือบหนึ่งพันกิโลเมตร คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นต้องคำนึงถึงบริษัทที่ไว้ใจได้ด้านบริการและเครื่องยนต์คะ  ทริปนี้เราเริ่มนั่งเครื่องไป-กลับ เชียงใหม่-อุดรธานีด้วยสายการบินนกแอร์คะ รับรถเสร็จขับเข้าเมืองอุดรกินอาหารเช้าเจ้าดัง “ร้านข้าวเปียก” วันอาทิตย์คนแน่นมากคะเราสั่งข้าวเปียก ไข่กะทะและแซนวิชญวน พร้อมกาแฟร้อนรสชาติดีทีเดียว

ข้าวเปียกและไข่กะทะ
แซนวิซญวน

เราเคยมาเที่ยวที่อุดรธานีแล้วเมื่องสองสามปีก่อน(ไว้ค่อยเล่าละเอียดอีกที) คราวนี้แวะกินข้าวเช้าแล้วขับผ่านโดยจับเส้นทางหลวงหมายเลข 2 ค้างคืนกันที่จังหวัดมุกดาหาร เป็นเส้นทางที่ขับง่ายจราจรไม่หนาแน่นมากนักสอง ในบางช่วงเพื่อนร่วมทางเป็นรถอีแต๋นบ้าง รถยนต์ส่วนตัวบ้างแป่งปันเส้นทางด้วยมิตรไมตรี มีน้ำใจข้างทางวิวสวย ไม่แห้งแล้งอย่างที่คาดไว้ มีเขียวขจีของไม้ผลัดใบ มีดอกแซมบ้างและไร่อ้อยและมันสัมปะหลังปะปรายคะ ถึงมุกดาหารเช็คอินที่โรงแรมโดยสวัสดิภาพ ระหว่างเส้นทางเราแวะสองสามที่จะนำมาเล่าเป็นตอนๆคะ

ทิวทัศน์จากเชิงสะพานข้ามเขื่อนลำปาว

Accommodation in Venice, Italy

DSCN1149_editedความประทับใจจากการท่องเที่ยวคือจุดประสงค์หลักสำหรับ”ไปไหนดี”นำมาเล่าสู่กันฟังคะ เช่นเดียวกับการเลือกห้องพักครั้งแรกจากเว็ปไซด์ Airbnb เป็นความตั้งใจของเราว่าอยากพักในเกาะเวนิสเพื่อสัมผัสทุกบรรยากาศทุกเวลาของเมือง เราได้ที่พักที่เจ้าของเป็นหนุ่มหล่อ หน้าตาดีและเป็นมิตรมาก แบ่งบ้านให้เช่าเป็นห้องๆด้วยกันห้าห้อง เราได้ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว

IMG_20160708_083217_editedตอนเช้าเจ้าบ้านชื่อ Lorenzo ออกไปซื้อขนมปังและต้มกาแฟหอมกรุ่น พร้อมพูดคุยและให้คำแนะนำเรื่องกินเรื่องเที่ยวและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและให้แผนที่เรามาด้วย การได้รับคำแนะนำแบบนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมาก จริงๆนะคะDSCN1325_edited

เวลาจองห้องพักในช่วงหน้าร้อนอยากแนะนำให้จองห้องแอร์ไปเลย เพราะจะทำให้เราหลับสบาย ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ อารมณ์ดีสำหรับเดินทางต่อไป  เมืองใหญ่อาคารปลูกชิดกันอากาศอบอ้าวมากนอนไม่ได้เลย ถึงจะมีพัดลมบริการก็เถอะ อีกอย่างคือห้องแอร์จะเงียบ ไร้เสียงและไร้กลิ่นต่างๆจากด้านนอกคะ ที่นี่ราคาห้องรวมอาหารเช้าด้วยดีอย่างคือหมดกังวลและพร้อมลุย แต่เราจ่ายภาษีต่างหากจากค่าห้องพัก

Munich-Venice by Air

เห็นโปรแกรมทัวร์ยุโรปสิบวันเจ็ดประเทศอะไรแบบนี้จากบริษัททัวร์ในเมืองไทยแล้วนึกสงสัยขึ้นมาทุกที ว่าเป็นไปได้หรือคิดว่าคงเหนือยน่าดูเลย การเที่ยวก็เหมือนเรื่องส่วนบุคคลชอบของใครของมัน จากประสบการณ์การเที่ยวนี่เหนื่อยเอาการ เอาเป็นว่าความสนุกที่แบ่งปันใช้ปรับแต่งวางแผนการเดินทางเที่ยวเองได้คะ สุดท้ายแล้วก็มีความสุขมากๆ เราเริ่มทริปจากเมืองมิวนิกด้วยสายการบินต้นทุนต่ำ แอร์ Transavia บินตรงจากมิวนิกถึงสนามบินเวนิสเลยคะ เราเจาะจงบินตอนกลางวันเพราะจะได้เห็นวิวสวยๆของเทือกเขาแอลป์สมัยนี้การเดินทางวางแผนเองจองทุกอย่างเองง่ายมาก โดยมีหลักการแค่สามอย่างคือ หนึ่ง มีบัตรเครดิต สองมีความรู้เรื่องไอที และสามมีแฟนที่เก่งเรื่องการ”เสาะข้อมูล” อิอิDSCN1095_edited

เราจองออนไลน์ Venezia CityPass แบบ 3 วัน รวมค่าโดยสายรถบัสจากสนามบิน -เรือยนต์ข้ามฟากของ ACTV และ Museums คะ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.veneziaunica.it  เป็นการเตรียมความพร้อมและลดความยุ่งยากในการเดินทางได้ดีมาก เมื่อถึงสนามบินรับกระเป๋าเสร็จหาทางออกจะมาขึ้นรถบัส เค้าเตอร์ที่สนามบินพนักงานของบริษัทเดินรถหน้าไม่รับแขกเลยเรายืนรอตั้งสิบนาทีทำเป็นมองไม่เห็น เราเลยหาทางเดินมาขึ้นรถเองที่จอดรอ การมีแพ็จเกจอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศเราจึงสามารถเช็คตารางเดินรถ ได้สะดวกมากๆเช่นกันคะ และเป็นเรื่องดีที่เราจองที่พักผ่าน Airbnb ได้โฮสท์ที่น่ารักบอกข้อมูลเดินทางให้เสร็จสรรพ และสื่อสารกันตลอดการเดินทางDSCN1106_edited

ท่าเรือดูเหมือนสร้างแบบง่ายๆนะคะแต่เทคโนโลยีเริดส์มาก ระบบซื้อและสแกนบัตรโดยสาร และตารางเดินเรือและเจ้าหน้าที่หน้าตาดีทั้งนั้นคะ ขึ้นเรือข้ามมาเกาะเวนิสคนค่อนข้างแน่นคะ วิวสวยมาก เช็คอินอย่างปลอดภัยโฮสท์เจ้าของมารอรับ แล้วตามก้นเดินแซกแซกถึงที่พักเลย คนเยอะมาก ถึงเกาะเวนิสต้องเดินเท่านั้น เตรียมรองเท้าคู่ใจ หมวกใบเก๋และแว่นกันแดดมาด้วยนะคะDSCN1119_edited

Eat Out

IMG_20160804_134146เพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่ได้แนะนำร้านอาหารอร่อยที่ใหนเลยในเมืองมิวนิก นั่นคงเป็นเพราะว่ามาเยี่ยมแฟนเลยทำอาหารกินเองซะส่วนใหญ่ จะมีบ่อยที่ออกไปสวนเบียร์หลังเลิกงานและไปบาร์บีคิวบ้านเพื่อน  IMG_20160804_134152อย่างเวลาออกไปเที่ยวเองข้างนอกส่วนมากจะซื้อขนมปังและซื้อแฮม ชีส หรือผักจากซุปเปอร์มาร์เก็ตทำเป็นแซนวิสนำติดตัวไปกินด้วย อร่อยถุกปากถูกใจ สบายกระเป๋า

เคยไปซื้อข้าวกลางวันกินที่ร้าน Dinos ถูกจริงแต่รสชาติไม่ถูกใจ แต่ที่ชอบมากๆคือแวะดื่มกาแฟ เค็กและไอศรีมมาหลายร้านคือแบบนี้อร่อยแน่ๆ ส่วนจากประสบการณ์หากซื้อกินจากข้างนอกเช่นแซนวิสหรือขนมปังพร้อมกินในราคาสบายกระเป๋าและรสชาติถูกปากแนะนำร้านใน U-Bahn, S-bahn หรือตาม Kiosh คะIMG_20160629_132612_edited

อาหารที่สวนเบียร์จะขายไม่ก็ชนิดที่เป็นที่นิยมของคนเยอรมันคือขนมปัง Pretsel แบบชิ้นใหญ่ เล็กก็มีกินกับครีมชีสบด  ขาหมูทอด ซี่โครงย่าง ไก่ย่าง ปลาย่างและสลัดคะIMG_20160801_203544_edited IMG_20160801_203004_edited

หอคอย Olympic Tower, Munich

DSCN0585_edited_editedหอคอยโอลิมปิก คือหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมืองของมิวนิก ไม่ว่ามองจากมุมใหนของเมืองด้วยความสูง 291 เมตรก็จะเห็นหอคอยนี้โดดเด่นเป็นสง่าเฉียดฟ้า สร้างเมื่อตอนมิวนิกเป็นเจ้าภาพงานแข่งขันโอลิมปิก ปี 1972 และยิ่งไปกว่านั้นวัสดุที่ใช้คือเหล็กและกระจกชนิดพิเศษ นำสมัยมากในยุคนั้น โอลิมปิก พาร์คก่อสร้างด้วยงบมหาศาล ปัจจุบันใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าพอสมควรในการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาต่างๆ ส่วนหอคอยมีรายได้จากค่าบัตรขึ้นชมวิวและ ร้านอาหาร ในแต่ละปีมีนักท่องขึ้นชมวิวเยอะมากDSC01015_edited

หอคอยเปิดบริการให้ขึ้นชมวิวของเมืองได้ตั้งแต่เวลา 9โมงเช้ายันเที่ยงคืน สะดวกขึ้น-ลงด้วยลิปที่ความเร็วแค่กลั้นหายใจ 7 เมตรต่อวินาทีขึ้นถึงยอดแทบไม่รู้สึกตัว วิวจากมุมสุงนี้มองเห็นได้สุดลูกหูลูกตาและดีกว่าหอคอยโบสถ์กลางเมืองคะ แถมด้วยวิวระยะล่างสุดคือหลังคาอาคารโอลิมปิก พาร์คโยงกันแลคล้ายใยแมงมุมหน้าหนาวโดนหมอกเช้า แต่ดูจากด้านล่างบางคนบอกเหมือนปลากระเบน ส่วนตัวเห็นเหมือนทอดแหมากกว่า ด้านบนยังมีกล้องส่องทางไกลและตู้ปั้มเหรียญเป็นที่ระลึก มีพิพิธภัณฑ์สำหรับแฟนเพลงพันธู์ร็อกและชั้นล่างถัดลงมาเป็นร้านอาหาร(เราไม่ได้แวะเลยเนื่องด้วยต้องจองโต๊ะล่วงหน้าเท่านั้นคะ)

Tollwood Sommerfest

Architects of Airงานเทศกาลประจำปีที่ทุกคนรอคอยในช่วงหน้าร้อน ในช่วงมิถุนายน-กรกฏาคมเป็นงานที่มีแนวคิดการจัดงานที่สร้างสรรค์ จากศิลปินนานาชาติด้านดนตรี ละครเวที ศิลปะและบุ้ทจำหน่ายงานหัตถกรรม อาหารและเครื่องดื่ม ไม่มีค่าเข้าร่วมงานทั้งนี้เจ้าภาพมีรายได้จากขายบัตรเข้าชมในบางรายการเช่นคอนเสริ์ตตอนกลางคืน การให้เช่าบุ้ท และจากสปอร์นเซอร์ งานนี้จึงมีผู้เข้าร่วมเป็นแสนต่อปี และมีการแสดงดีๆให้ชมฟรีตลอดงาน เช่นละครเวทีและแสดงพิเศษที่เป็นไฮไลท์ของงานจากศิลปินบางแขนง DSCN0598_edited

เทศกาลทอลวู้ด จัดทางทิศใต้ของโอลิมปิค พาร์คบนพื้นที่กว่าสามหมื่นตารางเมตร และมีผู้เข้าร่วมงานเป็นหมื่นในแต่ละวัน ไม่อนุญาตินำรถยนต์ส่วนตัวเข้าหรือผ่านบริเวณงาน มีรสเมล์สายผ่านสะดวกสบายเช่นเคยคะ ชาวมิวนิกนิยมปั่นจักรยานมาร่วมงานเจ้าภาพจัดพื้นที่ให้เป็นการเฉพาะ เป็นงานที่เหมาะสมกับทุกคนทุกวัยในครอบครัวคะ IMG_20160701_181505_edited

งานไตรกีฬาสุดแนว Munchen MASH, Munich.

DSCN0558_editedหากมายุโรปในช่วงระยะเวลาวันหยุดพักร้อนสั้นๆ ช่วงหน้าร้อนดีที่สุดแล้วคะ ระยะเวลากลางวันยาวกว่ากลางคืนพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง กว่าจะมืดก็สี่ทุ่มห้าทุ่มเลยทีเดียว และแถวยุโรปทุกเมืองการคมมนาคมขนส่งสารธารณะสะดวกสะบายมากคะ แถมด้วยหน้าร้อนจะมีเทศกาล กิจกรรมนั่นเยอะมากทั้งแบบจ่ายสตังค์และแบบฟรี ที่มิวนิกมีงานเทศกาลประจำปีที่อยากแนะนำเพราะชื่นชม ชื่นชอบเทศการนี้มาก เช่น DSCN0484_edited

Munchen MASH เป็นการแข่งขัน Street Sport กีฬาของคนสุดแนว มีด้วยกันสามประเภทคือ สเก็ตบอร์ด เซิฟบอร์ด และจักรยานฝาดโผน สามวันเต็มๆ เรามาร่วมงานในวันที่สองยังเร้าใจไม่แพ้วันชิงแชมป์ งานนี้ฟรีเพราะมีสปอร์นเซอร์ใหญ่ๆเช่น เครื่องดื่มชูกำลังเรดบลู หรือนาฬิกาเจ้าดังแห่งสวีสฯ และอื่นๆ มีงานออกร้านวัสดุและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับกีฬาทั้งสาม และอื่นๆที่ออกแนวอินดี้ๆและตอนเย็นมีคอนเสริต์ด้วยDSCN0540_edited

กีฬาเหล่านี้ในเมืองไทยจะโดนต่อว่าเป็นเด็กเหลือขอเล่นซะส่วนใหญ่ ที่เยอรมันกลับส่งเสริมอย่างเป็นการเป็นงานเพราะเชื่อในพลังและความอัฉริยะของคน นอกจากนี้ในงานยังรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อส่วนรวม เช่นแก้วเบียร์ที่มีค่ามัดจำและนำมาคืนที่บุ้ทขายไม่เป็นขยะไม่เป็นภาระ ในงานที่มีคนเข้าร่วมเป็นหมื่นๆเช่นนี้ เป็นต้น

DSCN0475_editedอาหารเครื่องดื่มค่อนข้างแพง แต่เราสามารถนำมาเองสำหรับปิกนิกได้คะ การหัดดื่มเบียร์ให้คล่องจะรู้สึกคุ้มเพราะน้ำเปล่าหนึ่งแก้วราคาเท่าเบียร์หนึ่งแก้วคะ งานนี้จัดขึ้นทุกปีที่โอลิมปิค พาร์คในสุดสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน หากไม่อยากพลาดติดตามได้จากเพจของงานคะDSCN0468_edited

ปราสาท Schlossanlage Schleissheim//3, Munich

DSCN3232_editedLustheim น้องเล็กสุดในอาณาจักรปราสาทแห่งนี้คะ สร้างขึ้นประมาณปี 1684 เคยเป็นห้องพักล่าสัตวของปราสาท ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมและจัดแสดงกระเบื้องพอสเลน ไมซเซน  Meissener Porzellan ที่ใหญ่ เยอะและน่าอัศจรรย์มากๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบงานเซรามิกสามารถมาเรียนรู้และศึกษาแบบประวัติศาตร์ แบบเทรนด์ รูปทรงประดับประดาตามยุคสมัยรวมถึงกลิ่นอายตะวันออกอย่างจีน  อินเดีย หลายชิ้นแสดงถึงการล่าอาณานิคมด้วย มีตั้งแต่ตู๊กตาชิ้นเล็ก ถึงรูปปั้นชิ้นโต และโถ จาน ถ้วยชาม บัตรเข้าพิพิธภัณฑ์บุคคลทั่วไป 3.50 ยูโรคะIMG_20160723_155905_edited