เมษายนขึ้นชื่อว่าร้อนตับแลปค่ะ ดีหน่อยมีเทศกาลมาเบรคให้คายร้อนไปบ้าง เมื่อยังร้อนต่อเนื่องเช่นนี้แล้วเราจะไปไหนดีล่ะคะ มาเชียงใหม่ซิคะ เชียงใหม่อุณหภูมิไม่ได้เย็นกว่าจังหวัดอื่นๆของประเทศหรอกค่ะ ที่ชวนขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่ตอนนี้คือ ดอกราชพฤกษ์ กำลังบานสะพรั่งต่างหากละคะ ถนนหลายสายจึงเหลืองอร่ามค่ะ งั้นเราไปเดินกินลมชมดอกกันเลยค่ะ
เดินเล่นกับแฟนรอบคูเมืองเชียงใหม่ เราเริ่มต้นที่แจ่งหัวลิน (มุมกำแพงคูน้ำ)ราวประมาณ สี่โมงเย็นค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะเดินให้รอบคูเมืองทั้งสี่ด้าน วันนี้มาเพราะเราอยากหาอะไรผ่อนคลายและเป็นการออกกำลังกายทำหลังเลิกงานค่ะ แถมโรแมนติกด้วยนะ ใครที่สนใจเรื่องประวัติความเป็นมาของคูเมืองและแจ่ง ไว้วันหลังเล่าให้ฟังนะคะ วันนี้อยากเล่าเรื่องโรแมนติกค่ะ
แดดอ่อน ต้นไม้ผลิใบเขียว น้ำพรุต้องแสง เป็นพันแสงรุ้งอันสวยงาม เริ่มโรแมนติกแล้วค่ะ ขอแนะนำให้เพิกเฉยกับรถราที่วิ่งขวักไขว่และทางเท้าที่แคบ ไม่สามารถเดินจุงมือกันได้นะคะ ช่วงเย็นๆแบบนี้จะเห็นมีนกกินปลาหลายชนิดมาจับจ้องปลาในคูเมืองค่ะ วันที่เราเดินมีคนมาตกปลาด้วย จริงๆเขาห้ามจับปลาค่ะ เราเดินไปเรื่อยผ่านวัดสี่ห้าวัดตลอดทั้งด้านในด้านนอกคูเมือง จะแวะไปไหว้พระ หรืออย่างอื่นก็สะดวกนะ เขามีทางม้าลายมีไฟกดให้ข้ามถนน ถ้าข้ามคูุก็มีสะพานค่ะ เมื่อยก็มีม้านั่งให้พัก แต่ถึงกระนั้นก็ยังแนะนำให้ใส่หมวกและทาครีมกันแดดนะคะ
มาถึงอีกแจ่งทางทิศตะเหนือฝั่งตะวันออกคือ แจ่งศรีภูมิค่ะ แจ่งนี้มีลุงแก่ๆโยนพักให้ปลาเป็นภาพที่น่ารักนะคะ โจผ่านมาทางนี้ทีไรก็เจอกับภาพนี้ประจำเลยค่ะ มองย้อนดูทางที่เราเดินพระอาทิตย์กำลังลับขอบดอยสุเทพคะ สวยจริงๆ ช่วงนี้เราต้องหลบคนที่รักสุขภาพมาวิ่งออกกำลังกายด้วยค่ะ ยังไม่ค่ำมากนักเราจึงเดินต่อให้ถึง แลนด์มาร์ของเชียงใหม่ นั่นคือประตูท่าแพค่ะ เราใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการละเลียดกับทิวทัศน์อันสวยงามรอบคูเมืองในเย็นนี้ สว่นอีกครึ่งไว้เดินตอนเช้าดีใหมคะ 