ครั้งแรกที่มาที่นี่เพราะแฟนเอาใจ เห็นว่าตอนนั้นฉันกำลังทำโปรเจค สตรีทอาร์ทที่เชียงใหม่ และในปีนั้นที่บูคไคล์ม มิวเซียมจัดแสดงนิทรรศการ สรีทอาร์ทอยู่ด้วย (นิทรรศการหมุนเวียนผ่านไปแล้วแต่ปัจจุบันยังมีผลงานหลายชิ้นให้ชมที่สนามหน้าและภายในอาคารค่ะ รับรองตื่นตาตื่นใจ)
การเดินทางมาพิพิธภัณฑ์จากมิวนิกได้หลายทางแต่ขอแนะสองทางคือ ด้วยรถไฟ S Bahn สาย 6 มาลงที่สตานแบร์ก Starnberg Station เพื่อต่อเรือสำราญที่ Starnberg See ในช่วงเมษายน -ตุลาคม ของปีเท่านั้น ตรวจสอบตารางเดินเรือและซื้อตั๋วที่นี่ค่ะ Bavarian lakes จากท่าเรือเดินต่ออีกประมาณกิโลเมตรผ่านหมู่บ้านมายังหอศิลป์
หรือจะนั่งรถไฟยิงยาวจากมิวนิกไปลงที่สถานี แบร์นรีด Munich – Bernried จองตั๋วและวางแผนการเดินทางเช็คจากเว็ปไซด์ www.reiseauskunft.bahn.de ตอนซื้อตั๋วเข้าชมหอศิลป์โชว์ตั๋วรถไฟได้ส่วนลดคนละหนึ่ง ออยโร แน่ะ(ปรกติก 8.50 ออยโร) จากสถานีมาหอศิลป์เดินผ่านหมู่บ้านประมาณสองกิโลเมตรหรือแท็กซี่ประมาณ 7 ออยโรค่ะ
ความพิเศษของหอศิลปะแห่งนี้ประกอบด้วยเรื่องเด่นทางด้าน สถาปัยกรรมที่ออกแบบได้ล้ำสมัยในด้านสิ่งแวดล้อม หอศิลป์ตั้งรายล้อมด้วยสวนป่าร่มรื่นด้านหลังเป็นเนินเขา ด้านหน้าริมทะเลสาปโรแมนติในความรู้สึกของเรา และสุดท้ายคือเป็นหอศิลป์ที่จัดแสดงงานศิลปะแนวอิเพรสชั่นนิส โดยเฉพาะทั้งหมุนเวียนและนิทรรศการถาวร รวมถึงเป็นสถาที่เก็บสมบัติของ แฮร์โลธาร์ กุนเธอร์ บุคไคล์ม ศิลปิน นักสะสมงานศิลปะ นักเขียนชื่อดังของเยอรมันนี
ไอเดียสร้างสรรค์จากการดูงานศิลปะที่นี่ ปฏิมากรรมจากเศษไม้ เศษเหล็กและขยะ หุ่นปั้นคาแร็กเตอร์ตลกและการมีส่วนร่วมองผู้ชมงาน ห้องปฏิบัติการให้เด็กๆสนุกและเป็นการปลูกฝังอีคิว นิทรรศการหมุนเวียน วัตถุโบราณล้ำค่าหลายชิ้นจากเอเซีย(พระพุทธรูปไม้ลงรักปิดทอง เครื่องเขินและงานไม้อีกหลายชิ้นไม่แน่ใจว่ามาจากพม่าหรือทางเหนือบ้านเรา) แอฟริกา เครื่องแก้วอาร์ทนูโว่ ฯลฯ ร้านของขายที่ระลึกทีงานดิไซด์แปลกๆน่าซื้อติดมือ
ส่วนตัวชื่นชอบที่จะมาที่นี่เอามากๆ แวะมาทุกครั้งต่อเติมพลังสร้างสรรค์และพักผ่อนจิตใจ ชอบชานที่ยื่นทอดยาวออกไปให้เห็นวิวสวยของทะเลสาบ ตัวอาคารที่ออกแบบเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ