Kinkaku-ji, Golden Pavilion, Kyoto. ศาลเจ้า คินคะคุจิ(วัดทอง)

DSCN5668_editedศาลเจ้าแห่งที่สองที่ขึ้นทะเบียนและคุ้มครองจากองค์กรยูเนสโก ของเมืองเกียวโตอีกแห่งเป็นที่นิยมและต้องแวะมาให้ได้นั่นคือ วัดทองหรือศาลเจ้าคินคะคุจิ  (ถ้าใครดูการ์ตูน อิกคิวซังจะคุ้นเคยกับภาพวัดนี้ดี) วัดอยู่นอกเมืองเกียวโตเราต้องนั่งรถเมล์ประมาณครึ่งชั่วโมงคะ จากสถานีใหญ่หรือที่ป้ายจอดรถเมล์คะ มาเที่ยวเกียวโตขอแนะนำซื้อตั๋ววันนะคะไปใหนมาใหนง่ายและคุ้มจริง(ศึกษาเส้นทางและข้อมูลอื่นๆจากแผนที่และคู่มือท่องเที่ยวค่ะ) พี่มะลิชาวญี่ปุ่นเพื่อนคนสนิทที่เคยทำงานเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ท่องเที่ยวที่เชียงใหม่พูดไทยชัดแจ่ว เธออาสาเป็นเพื่อนนำเที่ยวในทริปนี้ให้คะ ไปใหนมาใหนจึงค่อนข้างคล่องตัวและสบายใจหายห่วง เพราะเธอวางแผนและแนะนำสถานที่ให้เสร็จสรรพ การมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกและคนเดียวจึงสนุกสนานมากๆ (ใครต้องการเพื่อนนำเที่ยวแบบเป็นกันเองติดต่อเรามาได้เลยคะ อิอิ) DSCN5659_edited

จากโกโจเราขึ้นรถสองทอดมาลงที้ป้ายศาลเจ้าคะ สาย59ที่เราขึ้นมาผู้โดยสารค่อนข้างแน่นและมีนักท่องเที่ยวฝรั่งด้วย รู้เลยลงจุดหมายเดียวกันแน่ เดินข้ามถนนมาก็เจอร้านกระดาษซับหน้ามันเจ้าดัง ถัดมาอีกร้านเป็นร้านไอครีมชาเขียวเจ้าอร่อย หมายตาเอาไว้ตอนขาออกคะ ข้ามม้าลายก็เจอยามกำลังจัดคิวซื้อบัตร(400 เยน)เข้าศาลเจ้าคะ เราชอบการจัดระเบียบของศาลเจ้าตรงที่เขาจะทำทางเดินกรวดกว้างประมาณสองเมตร มีเชือกหรือรั้วไม้ไผ่เตี้ยๆกันขอบให้คนเดินไปในทิศทางเดียวกัน ซ้ายขวาของทางเดินเป็นสวนสนและต้นเมเปิ้นสวย เขียวขจีด้วยมอสสนานาพันธุ์ ร่มรื่นแบบนี้แทบทุกศาลเจ้าที่ไปมา พระเอกของศาลเจ้าแห่งนี้คือศาลาทองอันเหลืองอร่ามกลางสระน้ำนิ่ง เงียบสงบDSCN5759_editedแบบเซน ฉากหลังเป็นป่าเขาเขียวขจี DSCN5719_editedพี่ยามจะพยายามจัดสรรให้คนเข้าออกและจัดมุมถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไหลลื่น คนเยอะก็จริงแต่ไม่เบียดเสียดหรือแย่งที่กันน้อยมากคะ ดังนั้นทุกคนจะได้ภาพมุมศาสาทองนี้สำเนาเหมือนกันหมดคะเช่นกันค่ะ นกบนหลังคาเป็นนกฟินิกซ์ประจำวงตระกูลท่านไซออนจิ คิซึเนะอตีตเจ้าของบ้านก่อนจะกลายมาเป็นวัดหรือศาลเจ้าในปัจจุบันคะ ภายในศาลามีพระพุทธรูปหลายองค์หลายปรางสวยงามมาก มองด้วยตาเปล่าไม่ชัด แต่เดินออกมาสักหน่อยก็จะเห็นบอร์ดภาพและเจ้าหน้าที่อธิบายให้ทราบประวัติความเป็นมาคะ แต่จะกลับไปถ่ายรูปไม่ได้แล้ว ให้เดินหน้าอย่างเดียวต่อไปส่วนอื่นDSCN5795_editedสวยสวยร่มรื่น มีศาลา น้ำตกและโยนเหรียญเสี่ยงทายสนุกๆ และจบที่การศาลเจ้าสำหรับใหว้สักการะและบูชา ขอพรตามความเชื่อส่วนบุคคลคะ

Homemade-Ramen ราเมนเจ้าอร่อย

DSCN5261_editedบ้านเราชอบกินก๋วยเตี่ยวเป็นอาหารกลางวัน  ชาวญี่ปุ่นก็เช่นกันคะ ร้านราเมนหากินได้ง่ายราคาประหยัด เราเจอร้านนี้ทางขึ้นไปศาลเจ้าคิโยะมิสุ-เดระ ร้านเล็กๆแคบๆเข้ามาข้างในครึ่งหนึ่งของร้านเป็นครัวที่อุปกรณืครบครันและสะอาดสะอ้าน หนุ่มหล่อชายเดี่ยวอยู่หลังเค้าเตอร์ เส้นราเมนทำเองสดๆ ว้าวแค่นี้ก็น้ำลายสอแล้ว เมนูมีรูปภาพชัดเจนและมีบรรยายภาษาอังกฤษ ก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเจ้าของเขาพูดภาษาอังกฤษได้มั้ยเพราะ พี่มะลิจัดการสั่งให้เราเสร็จสรรพตามต้องการแล้ว DSCN5253 DSCN5249 DSCN5245

รสชาติสุโค่ยมากคะ เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุบหวานเค็มกลมกล่อม ชามก้นลึกอิ่มแปล้เลย ต้องขออภัยลืมจดชื่อร้านไว้ จากประสบการณ์ร้านอาหารญี่ปุ่นเล็กทำด้วยใจ อร่อยล้ำมหาศาลคะ

Kiyomizu-Dera, Kyoto ศาลเจ้าคิโยะมิสุ-เดระ

DSCN5351_editedศาลเจ้าคิโยะมิสุหรือวัดน้ำใส มรดกโลกองค์กร   ยูเนสโก เป็นศาลเจ้าชื่อดังใกล้เมืองและเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวทุกฤดูกาล ตั้งอยู่บนยอดเขาต้องเดินขึ้นเขาค่อนข้างไกลผ่านร้านค้าขนมเจ้าอร่อยสูตรเด็ดเต็มสองข้างทาง ผ่านร้านให้เช่าชุดและบริการแต่งตัวแบบพื้นเมือง ผ่านบริการรถลากจูงแบบโบราณ ผ่านร้านหัตถกรรม ผ่านร้านกาแฟ และสารพัดร้านลืมเหนื่อยเลยละคะ

DSCN5265_edited ถึงยอดเขาลูกแรกเป็นซุ้มประตูทางเข้าและซื้อบัตรเข้าศาลเจ้า ใครที่มาที่นี่พกพาความเชื่อด้านโชคลาภทั้งความรัก ความประสบผลสำเร็จในการศึกษาและความผาสุขในชีวิตคะ เห็นจากน้ำพุที่คนรอเข้าคิวยาวและใบเสี่ยงทายคล้ายๆการเสี่ยงเซียมซี ถ้าโชคดีเอากลับบ้าน ได้ใบที่ไม่ชอบใจก็ผูกไว้ที่วัด และของบูชาหลากหายชนิดให้ซื้อติดตัวกลับบ้านได้ด้วยDSCN5381_edited ถัดไปยังภูเขาอีกลูกระหว่างทางเป็นสวนเมเปิ้ลที่ใบจะเปลี่ยนในฤดูใบไม้ร่วง ขณะนี้เดือนมิถุนายนใต้ต้นมีดอกไฮเดรนเยียสีม่วงฟ้า ชมพู ออกมาสวยเช่นกันคะ ศาลากลางของศาลเจ้ามีระเบียงกว้างให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป และเห็นทิวทัศน์ของเมืองเกียวโต ระบียงนี้ประวัติน่ากลัวนะคะในสมัยโบราณที่มีความเชื่อเรื่องกระโดดจากระเบียงแสดงถึงความกล้าและศักดิ์ศรี ระเบียงนี้ใช้เสาไม้ใหญ่โตและแข็งแรงมากหลายร้อยต้น หลังคามุงด้วยหญ้าแบบเก่าDSCN5305_edited มีทางเดินใต้แมกไม้เขียวขจีและหญ้ามอส อากาศกำลังดีคะ ถึงแม้คนจะเยอะก็ตามที อ้อที่ศาลเจ้านี่ต้องละเลียดดูให้ทุกมุมนะคะ เขาออกแบบให้คนเดินไหลไปทางออกเดียวกัน ไม่มีการเดินวนย้อนมาจุดเดิมอย่างวัดไทยคะDSCN5406_edited_edited

 

Kyoto National Museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมืองเกียวโต

DSCN5226_editedส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ว่าจะไปบ้านเมืองใหนก็ตาม จึงต้องแวะพิพิธภัณฑ์ทุกครั้ง หลังจากเช็คอินเข้าห้องพักแล้วเรามีเวลาประมาณสามชั่วโมงรอเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่จะมาพักด้วยกัน DSCN5230_editedดูแผนที่แล้วออกเดินไม่ไกลและใช้เวลาไม่มากจากโกโจเแอนเน็ตเกสเฮ้าส์ พิพิธภัณฑ์เกียวโตเพิ่งจะขยับขยายและสร้างอาคารสมัยแบบใหม่เพิ่มอีกอาคาร ผสมความเก่าและใหม่ได้อย่างกลมกลืน มีสวนสวยเขียวขจีเป็นทางเชื่อม ต้นใม้และสวนเก่าแก่พอๆกับอาคารทรงยุโรปที่สร้างเมื่อปี ค.ศ1895 มีน้ำพุและอนุสาวรีย์ The Thinker ของศิลปินชาวฝรั่งเศสตั้งเป็นสง่าด้านหน้า เราแวะมาที่นี่เดือนมิถุนายน2558 กำลังมีการปรับปรุงอาคารเก่าคะ คงเปิดบริการเร็วๆนี้DSCN5219_edited

ข้ามสวนมานิดเป็นอาคารสมัยใหม่สวย เปิดเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาข้างในบางห้องไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ไม่อนุญาติให้สเก็ตภาพหรือบันทึกโดยปากกา (เพื่อนไขข้อข้องใจภายหลังว่าหมึกจะเลอะพื้นห้องและกลิ่นจะรบกวน) ต้องใช้ดินสอเท่านั้นซึ่งภัณฑารักษ์เตรียมให้พร้อมแล้ว น่ารักมากๆ ห้องแต่ละห้องเชื่อมโยงแต่ละชั้นได้ไหลรื่นอารมณ์ต่อเนื่องมากทั้งด้านการออกแบบทางสถาปัตย์ภายในและเรื่องราวงานที่จัดแสดงคะDSCN5238_edited

ภายในจัดแสดงรูปปั้นขนาดใหญ่เหล่าทวยเทพและพระพุธเจ้า เครื่องแต่งกายเช่นกิโมโน ยูกะตะที่ทำเอาเราตะลึงตะลานในความงามและประวัติความเป็นมาแต่ละชิ้น ห้องเซรามิกเครื่องปั้น ห้องประวัติศาตร์ ห้องอักษรและอื่นๆ สามชั่วโมงนี้แป๊ปเดียวจริงๆ ค่าเข้าชมไม่แพงนะคะ 520 เยนเอง มีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษและมีออร์ดิโอให้เช่าฟังคะ

 

kamo River, Kyoto แม่น้ำคะโมะ

DSCN5182 - Copyหลังจากเราเตร็ดเตร่แถวรอบนอกเมืองเกียวโตหลายวันแล้ว เช้านี้ก็ได้เวลาพาตัวเองเข้าใจกลางเมืองเสียที เราจองห้องพักแบบเรียวกังในย่านโกโจ นั่งรถเมล์ไม่กี่แยกไฟแดงแล้วเดินข้ามแม่น้ำคะโมะ ตอนข้ามสะพานทำให้เรารู้สึกว่าลักษณะภูมิประเทศการตั้งเมืองคล้ายกับเมืองเชียงใหม่มาก มีแม่น้ำและภูเขา ความต่างก็ตรงที่เกียวโตมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เชียงใหม่ฝันจะมีในอีกสามสิบหรือห้าสิบปีข้างหน้า

DSCN5188เราชื่นชอบคำกล่าวเดิมๆเรื่องความสุนทรีย์ริมตลิ่ง สามารถซึมซาบได้จากแม่น้ำคะโมะสายนี้ไม่ว่าจะเดินฤดูใหนหรือช่วงใหนของวัน แค่เดินข้ามสะพานเรารู้เราสัมผัสได้น้ำที่ใสไหลเรื่อยๆ ทางสัญจรริมตลิ่ง ต้นไม้เขียวขจี  ว่ากันว่าเส้นทางริมตลิ่งนี้ยาวทอดไปเกือยสามสิบกิโลเมตร ทำให้รู้สึกอยากให้เชียงใหม่มีแบบนี้บ้าง  DSCN5906ข้ามสะพานมาไม่ไกลเพื่อรับกุญแจจากร้านอาหาร Gojo ที่เราจองห้องพักแบบเรียวกังไว้ รับกุญแจ แล้วเข้าซอยอีกนิดหน่อยไปยังเกสเฮ้าส์ เงียบสงบ สะอาด รู้สึกได้ว่าทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นอยู่กันอย่างกลมกลืนเป็นชุมชนที่ดี เกียวโตได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรและปลอดภัยสำหรับผู้หญิงเดินทางคนเดียว ได้ยินแบบนี้แล้วใจชื้น

 DSCN5917

Shadow Puppet Museum,Rayong หนังใหญ่วัดบ้านดอน

DSC_0240สมัยเด็กเช่นกันเราชอบมาก ยังจำฝังใจหนังตะลุงจากภาคใต้มาแสดงให้ดู หวังมาตลอดว่าอยากดูอีกครั้ง มีบุญได้ดูในงานหุ่นนานาชาติที่เชียงใหม่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา และที่เปิดโลกถือเป็นโบนัสอีกอย่างคือ “หนังใหญ่”  หนังใหญ่เป็นศิลปะชั้นสูงหาดูได้ยาก ด้วยหลากหลายเหตุผล ทำให้เราสนใจอยากรู้ อยากเห็นเพิ่มขึ้น ทราบว่าที่ระยองมีมรกดกของชาติชิ้นนี้ด้วย (สมเด็จพระเทพฯโปรดเกล้าทรงเป็นองค์อุปถัมป์) DSC_0233เราเลยตามไปดูที่วัดบ้านดอน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวบหนังใหญ่กว่าสองร้อยชิ้น บางชิ้นเก่ามากขาดรุ่งริ่งเก็บในตู้แสดง พร้อมประวัติเรื่องราว และบางชิ้นเก่าด้วยแบบวิธีการทำและบางชิ้นเก่าแต่มีวิธีการทำใหม่ๆ รวมถึงหนังใหญ่ที่เก็บไว้สำหรับใช้แสดง เราว่าของดีๆแบบนี้ทางรัฐควรจัดงบประมาณเข้าจัดเก็บและอนุรักษ์

Exif_JPEG_PICTURE
Exif_JPEG_PICTURE

ข้างๆมีหนังวัวตากแห้งสำหรับทำตามขั้นตอนด้วย หนังใหญ่ทำจาหหนังวัว หนังควายคะ ขนาดใหญ่และหนักสมชื่อ คนที่เล่นนอกจากต้องซ้อมแสดงท่าอ่อนช้อยแล้วต้องกล้ามโตๆด้วย วันที่เราแวะมาตอนเช้ามีพิธีไหว้ครู ดีใจที่ทราบว่ามีการถ่ายทอดศิลปะหนังใหญ่สืบเป็นรุ่นๆด้วย เจ้าหน้าที่แจ้งว่าถ้าต้องการชมเป็นหมู่คณะยินดีมาเปิดแสดง แนะนำให้โทรจองและตระเตรียมล่วงหน้าสักหนึ่งสัปดาห์ DSC_0245และแต่ละปีได้จัดงานประจำปีหนังใหญ่บ้านดอนกลางลานวัดทุกปีช่วงสงกรานต์ปีใหม่ไทยด้วย เสียดายเราพลาด

ได้เก็บภาพบางส่วนในพิพิธภัณฑ์มาฝากคะ มาที่นี่แวะใหว้พระ เสร็จแล้วเดินมาด้านหลังของวัด มีบริการนวดไทยด้วยนะคะ แวะก่อนเดินทางกลับคะ

Sedge basket Weaving Village,Rayong ผลิตภัณฑ์จักสานกระจูดบ้านมาบเหลาชะโอน ระยอง

DSC04932ยังอยู่ที่จังหวัดระยองคะ ที่นี่เขามีของดีหลายอย่างที่อยากนำมาเล่าให้ฟังว่าไปใหนดี ไปใหนสนุก เราเช่ารถขับเองมีแฟนเป็นนาวิเกเตอร์กิติมศักดิ์ ไปใหนมาใหนเลยง่ายและสะดวกคะ เป็นคนที่ชื่นชอบงานฝีมือหัตถศิลป์เอามากๆ ทราบมาว่าระยองเป็นแหล่งผลิตงานสานจากกระจูด DSC04945กระจูดเป็นพืชตระกูลกกคะ ลำต้นเรียวยาวชลูดประมาณเมตรกว่าๆ เกิดขึ้นตามหนองบึงธรรมชาติ ชาวบ้านเก็บมาตากแห้งแล้วนำมาสานเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ในเรือน DSC04947“หมู่บ้านมาบเหลาชะโอน”เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องนี้คะ  เราโชคดีขับรถผ่านเจอตระกร้าที่สานเสร็จแล้วตากแดดเต็มลานบ้านตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้านเลย และแล้วมาเจอยายและแม่บ้านนั่งสานกันอยู่ เข้าไปคุยท่านทั้งสองบอกว่าทำเองเป็นงานอดิเรกไม่เยอะ ส่งให้สหกรณ์เป็นรายได้เล็กๆน้อยๆ ปัจจุบันหากไม่รวมกลุ่มกันก็ไม่มีตลาดและไม่มีการออกแบบหรือแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมากนัก พร้อมชี้ร้านค้าหน้าโรงเรียนให้เราดู แต่เปิด-ปิดตามเวลาราชการคะ DSC04970หลังจากนั้นเราตามไปดูหนองน้ำที่เขาเก็บกระจูดกันท้ายหมู่บ้าน เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ระบบนิเวศน์ดีมาก นอกจากกกกระจูดแล้วยังมีบัวหลวงเต็มหนองและกำลังเก็บรากบัว เก็บดอกบัวกันด้วยคะ ใครที่ชอบดูนกแนะนำเลยคะ และเจอต้นกระดาษคล้ายต้นยูคาลิปตัส (เคยเห็นที่ เพริ์สประเทศออสเตรเลีย)ที่ผิวลอกๆยังกับกระดาษเลยคะ

กกกระจูดขึ้นมากแถวภาคใต้ด้วยคะ

Sea Front Accommodation-SaiFah Kitchen ครัวสายฟ้า

DSCN7663

หาดทรายระยองแถบชายฝั่งดังๆสวยๆจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นส่วนมาก ดังนั้นหลายๆหาดมีการจัดการหลายอย่างเช่นเรื่องขยะ แผงขายอาหาร ห้องน้ำ ฯลฯแบบไทยๆในบางคราวที่เรารู้สึกยากที่จะยอมรับหรือทนได้ การมาระยองสองครั้งเรากับแฟนเช่ารถขับเองทำให้มีทางเลือกหาที่พักที่ได้ตามใจ เราเลือกถนนเรียบชายฝั่งใกล้ตัวอำเภอ บริเวณนี้เหมาะสำหรับวันหยุดระยะสั้นของครอบครัวมีโรงแรมและรีสอร์ทน่าพักหลายที่เช่น คันทารี ฮิลส์ ห่างจากเกสเฮ้าส์ที่เราพักไม่กี่ร้อยเมตร  ครัวฟ้าไส บริหารโดยลุงชาวสวิสและภรรยาแม่ครัวชาวไทย

Terrace overlooking the pool and the river with mangroves
Terrace overlooking the pool and the river with mangroves

ครัวฟ้าใส ปีนี้ทรุดโทรมลงไปมากกว่าปีแรกที่เราเข้าพัก ชอบที่นีเป็นร้านอาหารด้วย อาหารอร่อยใช้ได้ มีสระว่ายน้ำ ด้านหน้าเป็นทะเลที่มีแนวหาดเล็กๆเล่นน้ำได้ปลอดภัยพร้อมกำแพงกันคลื่นตลอดแนว ด้านหลังเป็นแม่น้ำระยองและป่าโกงกาง ใกล้ๆนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเช่น

RIMG0987.jpg

วัดสมุทรคงคา(ปากน้ำ)ตลาดสด/ตลาดนัดตอนเย็น ท่าเรือออกทะเล และพระสมุทรเจดีย์กลางน้ำคะ ถนนเรียบชายหาดมีเสน่ห์มัดใจเราที่มีปลาหมึก ปลาทะเล กุ้งแห้ง ตากตรงนั้นและขายกันเห็นๆตรงนั้นเลย ถัดไปหน่อยเป็นโรงงานน้ำปลาคะ เขาไม่อนุญาติให้เข้าชมและเราก็ไม่ประสงค์ด้วยกลิ่นค่อนข้างรุนแรง

RIMG1011.jpg

 

Fruit Orchard and Fruit Market, Rayong.

DSCN7620เมื่อสมัยตอนเป็นเด็กได้ยินว่าระยองเคยขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นเงาะโรงเรียน ทุเรียนหรือมังคุดงี้ สมัยนี้หลายสวนกลายเป็นสวนปลูกยางพาราไปแล้ว สวนสุภัทรานี่วิศัยทัศน์ยาวไกล พัฒนาสวนเป็นสวนเกษตรเชิงท่องเที่ยว แปลงยางพาราไม่กรีดแล้วแต่เหลือไว้ให้ชมเป็นร่มเงาและทิวสวยงามเมื่อขับรถผ่าน  พื้นที่กว่า700 ไร่มีผลไม้หลากหลายพันธุ์ ปลูกเป็นแปลงแบบยกร่อง ทั้งลำใย ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว เงาะ มังคุด มะละลอ สละ พุทธา องุ่นและอื่นๆอีกมากมายให้ผลผลิตทั้งแบบนอกและตามฤดูกาล สวนเปิดรับนักท่องเที่ยวตลอดได้ทั้งปี นักท่องเที่ยวเยอะผลไม้ไม่พอไม่พอ ก็รับผลิตผลจากเพื่อนชาวสวนใกล้เคียงมาให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสกัน ราคาเข้าชมสวนเป็นค่ารถพ่วงไกด์ควบคนขับ บุฟเฟ่ผลไม้สดและส้มตำ สำหรับคนไทย 350 บาท ต่างชาติ 400 บาท กินแค่ทุเรียนก็เกินคุ้มจริงๆ DSCN7609ช่วงที่เรามาเที่ยวคือต้นเมษายนเงาะ มังคุด รวมถึงทุเรียนบางพันธุ์เพิ่งติดดอก (ผลไม้บางชนิดรสชาติแปร่งๆอยู่บ้าง) แต่มีผลไม้นอกฤดูสดๆให้กินกันพุงกางจริงๆคะ เจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงมิถุนาเป็นหน้าเงาะโรงเรียนสามารถลงไปกินในสวนได้เลย เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังเรื่องการเก็บใบและผลไม้ที่ร่วงนำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ที่เรานั่งรถผ่าน และกิ่งไม้ที่ตัดแต่งทำเป็นเชื้อเพลิงด้วยสำหรับบ้านพักคนงานแทนแก๊สอีกด้วย คนงานที่สวนร้อยห้าสิบคนเป็นชาวกัมพูชากว่าร้อยคน ทำให้ทราบว่างานสวน งานจับกังคนไทยไม่ทำกันแล้วDSCN7596

ตลาดผลไม้บ้านตะพง เป็นตลาดขายส่งผลไม้ที่ใหญ่สุดในระยอง ชอบป้ายกฏเกฎฑ์และมาตรฐานทุเรียนระยองด้วย ปลายมีนาคมเสียดายเราพลาดเทศกาลผลไม้ของดีเมืองระยองไว้ปีหน้านะ ที่นี่มีทุเรียนทอดกรอบสดๆใหม่ๆ และผลไม้และผลิตภัณฑ์อื่นๆเป็นของฝากด้วย เราเจอแม่ค้าทุจริตที่นี่โก่งราคาขายผลสละที่นี่ หนีไม่พ้นเลยแม่ค้าประเภทคิดน้อย หัวเก่าเห็นแก่ตัวแบบนี้

 

Tung ProngTong Nature Trail -เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน

DSCN7291เส้นทางนี้เป็นที่รู้จักในนาม ทุ่งโปรงทองค่ะ เป็นป่าชายเลนครอบคลุมพื้นที่กว่า 6,000 ไร่เต็มไปด้วยไม้ป่าชายเลนหลายชนิด ทั้งโกงกาง ลำพูโปรงขาวโปรงแดงและอื่นๆโปรงเห็นมีค่อนข้างเยอะใบหนาสีเขียวอ่อนเวลาต้องแสดงแดดจะออกแสงสีทองอร่ามคะ ทองเป็นสีมงคล ชาวบ้านเลยเรียกตามนั้น DSCN7313นอกจากเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ความรู้จากข้อมูลที่ปิดบอร์ดไว้แล้ว ยังให้ความเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะสำหรับถ่ายภาพธรรมชาติ ดูนก ดูปูและรบบนิเวศน์ชายเลนหรือเดินเล่นผ่อนคลายด้ายทางเดินสะพานไม้ยาวประมาณ2.8 กิโลเมตรคะ เราเห็นแว๊ปๆว่ามีบริการเรื่อยนต์ด้วยคะ และทราบจากสามล้อว่าออกเรือตอนกลางคืนในฤดูหิ่งห้อยด้วยนะคะ ทางเข้าทุ่งโปรงทองมีสองทางเดินหัว-ท้าย ไม่ว่าจะเริ่มจากจุดใหน จอดรถไว้ที่ใดก็มีชาวบ้านรวมตัวกันจัดเป็นคิวสามล้อบริการมีราคาเป็นมิตรและบอกไว้อย่างชัดเจนสะดวกสะบายคะDSCN7304
เรามากันตอนบ่ายราวสี่โมงเย็นเริ่มต้นที่ท่าเรือแสมผู้ จอดรถแล้วเดินต่อเจอเรือให้เช่าและที่สามล้อจอดรอรับ-ส่งหากว่าใครเริ่มต้นเส้นทางมาจาก อนุสรณ์เรือหลวงประแสคะ หากไม่เช่าเรือก็เดินขึ้นสะพานเข้าเขตเส้นทางศึกษาธรรมชาติกันเลย เส้นทางบางช่วงต้นไม้ร่มรื่น บางช่วงที่เป็นป่าต้นโปรงเตี้ยเป็นทุ่งกว้างสำหรับถ่ายรูปกระทบแดดเป็นสีทองตัดกับท้องฟ้าสวย(บริเวณนี้คนเยอะเลยอดแต่เราได้ภาพโคลสอัฟต้นโปรงมาแทน)อากาศร้อนไม่ได้เอาร่มหรือหมวกมา เลยเดินต่อไปดูปูและอื่นๆคะ เวลาเดินหรือถ่ายรูปต้องระวังนิดหนึ่งนะคะ ไม้สะพานบางช่วงผุพังรอซ่อมแซมคะ ตลอดเส้นทางลักษณะป่าที่ผสมผสานกันหลากสายพันธุ์และทิวทัศน์ สักพักมาเจอศาลเจ้าแสมผู้กราบไหว้บูชากันตามความเชื่อคะ และตรงนี้ก็มีบริการเรือเช่าคะ ถ้าใครชอบดูนก ดูปูถัดจากบริเวณนี้ก็สวรรค์คะวิวทะเลด้วย มาตอนเย็นน้ำลงลมเย็นและสดชื่นจริงๆ DSCN7350จะเห็นว่ามีการปลูกโกงกางเพิ่มเติมเป็นหลายไร่คะ ดีใจจริงๆ เราสิ้นสุดเส้นทางก่อนค่ำ เห็นป้ายว่าบางวันมีตลาดนัดแถวนี้ด้วย แม้พลาดดูข้าวของตลาดท้องถิ่นแต่ได้ใช้เวลาเดินขึ้นเรือหลวงประแสก็มีความสุขสุดๆคะ เรานั่งสามล้อกลับไปเอารถที่จอดไว้ กระซิบนิดหนึงที่ป่าชายเลนแม้จะเป็นช่วงเย็นแต่ไม่มีแมลงหรือยุงเลยคะ