Kiyomizu-Dera, Kyoto ศาลเจ้าคิโยะมิสุ-เดระ

DSCN5351_editedศาลเจ้าคิโยะมิสุหรือวัดน้ำใส มรดกโลกองค์กร   ยูเนสโก เป็นศาลเจ้าชื่อดังใกล้เมืองและเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวทุกฤดูกาล ตั้งอยู่บนยอดเขาต้องเดินขึ้นเขาค่อนข้างไกลผ่านร้านค้าขนมเจ้าอร่อยสูตรเด็ดเต็มสองข้างทาง ผ่านร้านให้เช่าชุดและบริการแต่งตัวแบบพื้นเมือง ผ่านบริการรถลากจูงแบบโบราณ ผ่านร้านหัตถกรรม ผ่านร้านกาแฟ และสารพัดร้านลืมเหนื่อยเลยละคะ

DSCN5265_edited ถึงยอดเขาลูกแรกเป็นซุ้มประตูทางเข้าและซื้อบัตรเข้าศาลเจ้า ใครที่มาที่นี่พกพาความเชื่อด้านโชคลาภทั้งความรัก ความประสบผลสำเร็จในการศึกษาและความผาสุขในชีวิตคะ เห็นจากน้ำพุที่คนรอเข้าคิวยาวและใบเสี่ยงทายคล้ายๆการเสี่ยงเซียมซี ถ้าโชคดีเอากลับบ้าน ได้ใบที่ไม่ชอบใจก็ผูกไว้ที่วัด และของบูชาหลากหายชนิดให้ซื้อติดตัวกลับบ้านได้ด้วยDSCN5381_edited ถัดไปยังภูเขาอีกลูกระหว่างทางเป็นสวนเมเปิ้ลที่ใบจะเปลี่ยนในฤดูใบไม้ร่วง ขณะนี้เดือนมิถุนายนใต้ต้นมีดอกไฮเดรนเยียสีม่วงฟ้า ชมพู ออกมาสวยเช่นกันคะ ศาลากลางของศาลเจ้ามีระเบียงกว้างให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป และเห็นทิวทัศน์ของเมืองเกียวโต ระบียงนี้ประวัติน่ากลัวนะคะในสมัยโบราณที่มีความเชื่อเรื่องกระโดดจากระเบียงแสดงถึงความกล้าและศักดิ์ศรี ระเบียงนี้ใช้เสาไม้ใหญ่โตและแข็งแรงมากหลายร้อยต้น หลังคามุงด้วยหญ้าแบบเก่าDSCN5305_edited มีทางเดินใต้แมกไม้เขียวขจีและหญ้ามอส อากาศกำลังดีคะ ถึงแม้คนจะเยอะก็ตามที อ้อที่ศาลเจ้านี่ต้องละเลียดดูให้ทุกมุมนะคะ เขาออกแบบให้คนเดินไหลไปทางออกเดียวกัน ไม่มีการเดินวนย้อนมาจุดเดิมอย่างวัดไทยคะDSCN5406_edited_edited

 

Kyoto National Museum พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเมืองเกียวโต

DSCN5226_editedส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ว่าจะไปบ้านเมืองใหนก็ตาม จึงต้องแวะพิพิธภัณฑ์ทุกครั้ง หลังจากเช็คอินเข้าห้องพักแล้วเรามีเวลาประมาณสามชั่วโมงรอเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่จะมาพักด้วยกัน DSCN5230_editedดูแผนที่แล้วออกเดินไม่ไกลและใช้เวลาไม่มากจากโกโจเแอนเน็ตเกสเฮ้าส์ พิพิธภัณฑ์เกียวโตเพิ่งจะขยับขยายและสร้างอาคารสมัยแบบใหม่เพิ่มอีกอาคาร ผสมความเก่าและใหม่ได้อย่างกลมกลืน มีสวนสวยเขียวขจีเป็นทางเชื่อม ต้นใม้และสวนเก่าแก่พอๆกับอาคารทรงยุโรปที่สร้างเมื่อปี ค.ศ1895 มีน้ำพุและอนุสาวรีย์ The Thinker ของศิลปินชาวฝรั่งเศสตั้งเป็นสง่าด้านหน้า เราแวะมาที่นี่เดือนมิถุนายน2558 กำลังมีการปรับปรุงอาคารเก่าคะ คงเปิดบริการเร็วๆนี้DSCN5219_edited

ข้ามสวนมานิดเป็นอาคารสมัยใหม่สวย เปิดเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาข้างในบางห้องไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ไม่อนุญาติให้สเก็ตภาพหรือบันทึกโดยปากกา (เพื่อนไขข้อข้องใจภายหลังว่าหมึกจะเลอะพื้นห้องและกลิ่นจะรบกวน) ต้องใช้ดินสอเท่านั้นซึ่งภัณฑารักษ์เตรียมให้พร้อมแล้ว น่ารักมากๆ ห้องแต่ละห้องเชื่อมโยงแต่ละชั้นได้ไหลรื่นอารมณ์ต่อเนื่องมากทั้งด้านการออกแบบทางสถาปัตย์ภายในและเรื่องราวงานที่จัดแสดงคะDSCN5238_edited

ภายในจัดแสดงรูปปั้นขนาดใหญ่เหล่าทวยเทพและพระพุธเจ้า เครื่องแต่งกายเช่นกิโมโน ยูกะตะที่ทำเอาเราตะลึงตะลานในความงามและประวัติความเป็นมาแต่ละชิ้น ห้องเซรามิกเครื่องปั้น ห้องประวัติศาตร์ ห้องอักษรและอื่นๆ สามชั่วโมงนี้แป๊ปเดียวจริงๆ ค่าเข้าชมไม่แพงนะคะ 520 เยนเอง มีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษและมีออร์ดิโอให้เช่าฟังคะ

 

kamo River, Kyoto แม่น้ำคะโมะ

DSCN5182 - Copyหลังจากเราเตร็ดเตร่แถวรอบนอกเมืองเกียวโตหลายวันแล้ว เช้านี้ก็ได้เวลาพาตัวเองเข้าใจกลางเมืองเสียที เราจองห้องพักแบบเรียวกังในย่านโกโจ นั่งรถเมล์ไม่กี่แยกไฟแดงแล้วเดินข้ามแม่น้ำคะโมะ ตอนข้ามสะพานทำให้เรารู้สึกว่าลักษณะภูมิประเทศการตั้งเมืองคล้ายกับเมืองเชียงใหม่มาก มีแม่น้ำและภูเขา ความต่างก็ตรงที่เกียวโตมีทุกสิ่งทุกอย่างที่เชียงใหม่ฝันจะมีในอีกสามสิบหรือห้าสิบปีข้างหน้า

DSCN5188เราชื่นชอบคำกล่าวเดิมๆเรื่องความสุนทรีย์ริมตลิ่ง สามารถซึมซาบได้จากแม่น้ำคะโมะสายนี้ไม่ว่าจะเดินฤดูใหนหรือช่วงใหนของวัน แค่เดินข้ามสะพานเรารู้เราสัมผัสได้น้ำที่ใสไหลเรื่อยๆ ทางสัญจรริมตลิ่ง ต้นไม้เขียวขจี  ว่ากันว่าเส้นทางริมตลิ่งนี้ยาวทอดไปเกือยสามสิบกิโลเมตร ทำให้รู้สึกอยากให้เชียงใหม่มีแบบนี้บ้าง  DSCN5906ข้ามสะพานมาไม่ไกลเพื่อรับกุญแจจากร้านอาหาร Gojo ที่เราจองห้องพักแบบเรียวกังไว้ รับกุญแจ แล้วเข้าซอยอีกนิดหน่อยไปยังเกสเฮ้าส์ เงียบสงบ สะอาด รู้สึกได้ว่าทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นอยู่กันอย่างกลมกลืนเป็นชุมชนที่ดี เกียวโตได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรและปลอดภัยสำหรับผู้หญิงเดินทางคนเดียว ได้ยินแบบนี้แล้วใจชื้น

 DSCN5917

Nishi- Hanganji Temple

คืบก็วัดศอกก็วัด นอกจากเชียงใหม่ก็จะเป็นเมืองเกียวโตนี่ละคะ วัดระแวกเรือนพักของเราไม่ได้ชื่อดังและมีนักท่องเที่ยวเยอะอย่างวัดอื่นๆ แต่ก็เป็นศาสนสถานที่สำคัญและคุ้มครองเป็นมรดกโลกคะ วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อทอนอำนาจของวัด ฮิกาชิ-ฮองงันจิ ที่เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้คะDSCN4869

วัดนิชิ-ฮองันจิเป็นวัดพุทธนิกายโจโดชิน นิกายที่ใหญ่และมีผู้นับถือมากที่สุดในญี่ปุ่นคะ ก็เห็นได้จากขณะที่เราแวะชมก็กำลังทำพิธีใหญ่และสาธุชนเยอะมากคะ ระหว่างรอพิธีเสร็จเลยแวะเข้าศูนย์ข้อมูลเล่นเน็ต Kyoto free wi-fiไปพลางๆค่ะ ตรงลานกลางวัดมีต้นไม้เก่าแก่มหึมาขณะนี้หน้าร้อนDSCN4760ใบดกเขียวมาก ในฤดูใบไม้ผลิจะผลิดอกเหลืองสพรั่งทั้งต้นเลยล่ะคะ DSCN4899

จะเห็นว่าแทบทุกวัดจะมีบ่อน้ำใสที่ออกมาจากปากมังกรชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์มีไว้สำหรับชะล้างมือ ก่อนเข้าศาลาวัดค่ะ(การชำระล้างยังมีวิธีนะ เดี่ยวเล่าให้ฟังค่ะ)

Morning Coffee at Conleche,Kyoto.

ไปใหนดีคะ หนังสือนำเที่ยวหลายเล่มมักจะแนะนำให้เราตื่นเช้าๆเพื่อส่องวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ก็เป็นความคิดและข้อเสนอที่น่าสนใจ  หลายเช้าที่เกียวโตเราตื่นสายนะ นอกจากเวลาที่เร็วกว่าเมืองไทยสองชั่วโมงแล้ว เราก็มักจะอ้อยอิ่งบนฟูกนุ่นๆแอร์เย็นๆ ตื่นมาจิบชาเขียวหอมกรุ่น ห้องที่เราพักเรียบง่ายมาก ไร้เฟอร์นิเจอร์ ความเรียบของห้องและโทนสีธรรมชาติบวกกับบรรยากาศความสงบเงียบและแดดเช้าแบบนี้ รู้สึกแปลกๆถึงแรงซึมซาบพลังบวกของชีวิต

เราตื่นเช้ากว่าปรกติก เดินออกมาไม่ไกลจากเรือนพักมีร้านกาแฟที่เปิด 7 โมงเช้าในวันอาทิตย์ด้วย ป้ายหน้าร้านเป็นภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ  “Conleche Cafe”DSCN5102พร้อมรูปถ้วยกาแฟ อือไม่น่าจะเข้าผิดนะปรับสายตาสักแป๊ปก็รู้สึกคุ้นๆว่าเหมือนผับในยุโรปผสมกลิ่นอายญี่ปุ่น ทราบภายหลังชื่อร้านเป็นภาษาเสปน สองโต๊ะริมหน้าต่างว่างเราเลือกเป็นที่นั่ง ทุกคนในร้านหันพรั่บมาทางเรา เลยแก้เขินด้วยทักทายเป็น Ohayo!  รู้สึกแปลกๆสักพักบริการบอกว่าเช้านี้จะมีงานแสดง โต๊ะนี้เว้นไว้เฉพาะการ เราเลยไปขอร่วมโต๊ะกับหนุ่มญี่ปุ่นพร้อมสั่งกาแฟและอาหารเช้า บริกรบอกว่า วันนี้บริการเฉพาะกาแฟและขนมปังครัวซองเท่านั้น จริงๆมารู้ทีหลังว่าโชว์นี้มีค่าเข้าชมด้วย บริกรคงเกรงใจไม่กล้าบอกเราและคงรู้ได้ว่าเราฟังไม่รู้เรื่องเลยปล่อยให้นั่งไป เรื่องที่แสดงเราคุ้นว่าเป็นบทละครของเช็คสเปีย    ” As You Like It ” จุ๊ๆๆ…..อย่าเอะไปเดียวเขาหาว่าเราขี้โกง และเราก็ถึงบางอ้อที่ทุกคนหันพรั่บมาทางเราเพราะเช่นเดียวกันเมื่อDSCN5092ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามา นั่งแมะพร้อมคุยโทรศัพท์เสียงดัง แหมเปิดการแสดงเรียกความสนใจได้แจ่มมากเลย

Self catering Accommodation

เรือนพักที่เราเช่าเป็นกึ่งๆเกสเฮาส์กึ่งๆบ้าน ราคาประหยัดเพราะไม่มีบริการอาหารเช้าแต่ว่ามีครัว และเครื่องครัวเบสิกๆให้เราประกอบอาหารอย่างง่ายได้เช่น เมนูบะหมี่ คนญี่ปุ่นก็มีอารมณ์ขันเป็นนะDSCN4415

นอกจากนี้ชั้นลอยของบ้านยังมีเครื่องซักผ้า อบผ้า ตากผ้าบริการครบครัน Self catering จริงๆนึกอยากมีกิจการแบบนี้ที่เชียงใหม่แล้วซิ ข้อดีของการพักแบบนี้คือถ้าเราได้เพื่อนร่วมชายคาที่มีวุฒิภาวะหรือศิลเสมอกันก็อยู่อย่างมีความสุข เคารพความเป็นส่วนตัวซึ่งกันและกัน อย่างธรรมเนียมญี่ปุ่นหรือชนชาติที่เจริญแล้ว ในความเป็นจริงนั้นเป็นไปไม่ได้เมื่อเปิดบ้านให้สาธารณะชนเข้าพักและก็ไม่ใช่เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนกรุ๊ปหนึ่งเข้าพักในเย็นวันนี้ จากบ้านที่เคยเงียบสงบและผ่อนคลายเปลี่ยนเป็นตลาดสดไปทันที

 

 

Dinner Alone

DSCN4953_editedจะไปกินที่ร้านใหนดีคะ จริงๆจั๋วหัวกินข้าวคนเดียวแบบนี้ออกจะสับสนในใจนะคะ สมัยนี้การเที่ยวคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร การปล่อยตัวเองลำพังทำให้เราได้เรียนรู้หลายอย่างคะ เช่นทำบางอย่างช้าลงและการปล่อยตัวเองให้หลงทางเพื่อค้นเจอสิ่งเร้าใจใหม่ๆ เช่นเดียวกับเย็นนี้        แม้เกียวโตไม่ได้มีตึกราบ้านช่องสวยงามจนไม่อาจละสายตามองพื้นได้อย่างเมืองเก่าที่ยุโรป แต่เกียวโตก็มีเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้เราละสายตาไปอื่นไม่ได้ นั่นคือความคงเส้นคงวาที่ต้องจ้องหาป้ายภาษาอังกฤษหรือไม่ก็รูปภาพค่ะ อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็ลำบากนิดหน่อยDSCN4949_edited
กรุณาอย่ารำคาญถ้าดิฉันไม่สามารถบอกชื่อร้าน หรือชื่อถนนได้เอาเป็นว่าเล่าๆเรื่องความประทับใจดีกว่า ร้านนี้มีรูปขึ้นหน้าร้านเป็นอาหารเซ็ทต่างกันในแต่ละวันเปิดเฉพาะมื้อกลางวันและตอนเย็นคะ ภายในร้านมีคุณป้าที่ใจดียิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับออกตรงข้ามจากคุณสามีที่ทำเอาเราออกจะหัวหดDSCN4960

อาหารพื้นๆยอดนิยมเย็นวันนี้คือแกงกะหรีเนื้อราดข้าวคะ และมีออร์เดิฟเย็นๆกระจุ่มกระจิ่มน่ารัก เพิ่งเคยเห็นเขาเสริฟมาบนฟรอยด์ก็คราวนี้ แปลกมั๊ยอยากสั่งเบียร์มาดื่มล้างคอแต่เซนเซหน้าดุจังDSCN4963

อึม…แกงกะหรี่ราดข้าวไม่ใช่เมนูโปรดของเราอ่ะคะ อาหารที่ 7-11 อร่อยกว่าขอบอก มื้อนี้550เยน

Shosei-in Garden

DSCN4611เดินออกจากประตูวัด ฮองกานจิข้ามถนนตรงน้ำพุดอกบัว เข้าซอยมานิดหน่อยค่อนข้างเงียบสงบดี สองข้างถนนเป็นบ้านแบบเกียวโตทรงเก่าๆสภาพสวยงาม บางหลังเป็นร้านค้าและมีกระจกมองเห็นพนักงานและช่างหญิงหลายๆคนขมักเขม้นทำงานฝีมือ เรายืนมองเพลินสักพักจึงจากมาDSCN4662

The Shosei-en Garden เป็นส่วนหนึ่งของวัดฮองงันจิ สวนนี้สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 32,374 ตารางเมตร เมื่อปี 1936 โดยนักออกแบบ โยเซน อิชิกาว่า ถ้าหากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงสีสันคงตื่นตาตื่นใจกว่านี้  แต่แปลนสวน Landscape สวยจับใจ งดงาม เงียบสงบ และทรงพลังตั้งแต่กำแพงหินแล้วค่ะDSCN4701

มีเพียงบัวหุบ นกกระเรียนที่ยืนนิ่งรอบสวนและตัวเราเท่านั้น เลยตบยุงกันกันลั่นสวนหน้าร้อนยุงที่ใหนๆก็ยุงชุมไม่แพ้เมืองไทย หลังปรับปรุงคาดว่าสวนจะสวยอย่างในแผ่นพับแน่ๆค่ะ ค่าบำรุงสวน 500 เยน

Wander around, Higanshi-Hongan-ji Temple

เกียวโตสามารถมาเที่ยวในแบบเนิบช้าได้อย่างสบายค่ะ บ้านเรือนสะอาด เงียบสงบ วิถีคนเกียวโตน่ารัก อากาศดีและรู้สึกปลอดภัยเอามากๆไม่ว่าจะเดินหรือปั่นจักรยาน  หลังอาหารเช้าเราเดินออกมานิดเดียวก็เจอวัดฮิกานชิ-ฮอนกาน-จิ

Details Kyoto Architecture
Details Kyoto Architecture

รั้วกำแพงวัดสีออกเทาม่วงๆ มีต้นสน ดัดและตกแต่งเรียบร้อย มีคลองน้ำใสแลเย็นเห็นตัวปลา ว่ายวนไปมาน่าอภิรมย์ กั้นระหว่างทางเท้ากับเขตของวัด หน้าร้อนปีนี้มีการปรับปรุงวัดขนานใหญ่เราเลยต้องเดินอ้อมไกล เพื่อเข้าประตูใหญ่ คิดว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราเห็นการจัดสวนนอกวัด และสิ่งประดับตกแต่งรอบๆวัดค่ะ ภายนอกสวยไม่แพ้ด้านในเลย บึกบึนแต่ความอ่อนช้อยสวยงามในแบบเกียวโตที่สืบทอดมาเป็นพันปี เจือจางกลิ่นอายที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมจีนจากอดีตกาล

Giant Wooden Assembly Hall
Giant Wooden Assembly Hall

วัดนี้คุ้มครองและได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกแห่งของเกียวโต ศาลาการเปรียนหลังใหญ่รูปทรงคล้ายเรือตามหลักแนวคิดพุทธศานา ก่อสร้างโดยโชกุนตระกูล โทกุงาวะเมื่อปี พ.ศ.๒๑๔๖ ผ่านมาเป็นร้อยๆปีความโอ่อ่าใหญ่โตมโหฬารยังดำรงตราบทุกวันนี้

Interior in Assembly Hall
Interior in Assembly Hal

 

ก่อสร้างด้วยไม้ เสาแต่ละต้นมหึมา ประตูหน้าต่าง บันได ชานระเบียงเป็นไม้ ขณะนี้กำลังประกอบพิธีทางศาสนาเราเลยออกมานั่งกินลม เย็นสบายตรงระเบียง โอ้เงียบสงบชื่นใจเหลือเกิน ก่อนที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจะยกพลขึ้นมา ระหว่างรอความเงียบสงบกลับคืนมา เราเดินไปอีกอาคารชมนิทัศกาลคำคมปรัชญา  มีแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย สวยงามทั้งความหมายและลายมือ และถัดอีกห้องเป็นประวัติความเป็นมาของตระกูลโชกุนและการสร้างวัด ช่วงนีที่เรามาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นปีรำลึกครบรอบเจ็ดสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เราเห็นศาลจากท่านเจ้าอาวาสของวัดติดใส่กรอบเป็นสง่าขอขมา ลาโทษเกี่ยวกับอดีตที่เกิดขึ้น อ่านแล้วรู้สุกได้ว่าไม่มีใครต้องการให้สงครามเกิดขึ้น…..

เดินรอบวัดที่ใหญ่โตแต่เรียบง่ายของวัดนี้แล้ว แวะเข้า information Centre เดินดูหนังสือมีแต่ ภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้น จึงหยิบกระดาษเกมส์สะสมสแตมป์ฟรีสำหรับเด็กเป็นที่ระลึก เข้าห้องน้ำ เช็คเมล์จากบริการ Kyoto Free WiFi และซื้อโปสต์การ์ด(แพง)เนื่องเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพภายในศาลาได้ ภาพที่เราได้มา พี่ยามคงไม่เห็นตอนเราถ่ายมั้งก่อนเข้าก็ไม่เห็นป้ายห้ามนะ

Breakfast In Kyoto

เคยมีเพื่อนต่างชาติถามเราว่าคนไทยกินอะไรเป็นอาหารเช้า คำถามนี้ตอบกันยาวเลย คนไทยเรื่องกินเรื่องใหญ่ ตอนพักที่โอกินาว่า เรามักจะต้มกาแฟพร้อมๆกับเปิดทีวีไว้เป็นเพื่อน จิบกาแฟพร้อมเปิดดูรูปภาพในหนังสือพิมพ์ประจำวันที่วางไว้บนโต๊ะ ในเช้าของวันที่แดดส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา อาหารเช้ามื้อนั้นสุดยอดแล้ว เช้าแรกที่เกียวโตเสียงไสๆของเด็กชายปลุกให้เราตื่น โชงกลงไปดูเห็นหลังเด็กชายในยูนิฟอร์มเด็กประถมไวๆ คำกล่าวนั้นเราอุปมาได้ว่า “ไปเรียนแล้วนะครับ” ความเงียบของคนในชุมชนที่รักษามารยาทต่อกัน(หนึ่งในกฏข้อห้ามที่เราต้องลงชื่อทำตามในฟอร์มตอนเช็คอิน) ทำให้ได้ยินทุกเช้าไม่ได้รบกวนอะไรเพราะเสียงนั้นเพราะกังวาลมากๆสำหรับเรา หลังชงชาเขียวดื่มที่ห้อง เกรียกกลิ้งบนที่นอน บันทึกประจำวันเสร็จแล้ว เช้านี้ลืมสนิทไปเลยเลยกับเรื่องที่กังวลเมื่อคืนว่าที่นอนจะแข็งใหม จะปวดหลังใหม

แปรงฟัน ล้างหน้าที่อ่างรวมในโถงทางเดิน ห้องถัดไปเป็นสุขาที่สะอาดเรียบร้อย ฝารองนั่งชักโครกอุ่นๆ รองเท้าแตะอุ่นเท้า ห้องขนาด1×1 เมตรมีทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็น ขนาดแคบพอดีสำหรับหนึ่งคนไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่ ถัดไปอีกสิบกว่าเซนติเมตรคือห้องอาน้ำประตูบานเลื่อนที่ออกแบบเหมาะสมและพอดีเช่นกัน

Sushi
Sushi
Cosy Corner
Cosy Corner

ห่างจากที่พักเดินมาเจอร้านข้าวปั้นเล็กๆและคาดว่าจะมีเมนูข้าวปั้นข้าวห่อ อย่างเดียว เราสันนิฐานว่าชาวญี่ปุ่นมักจะเอาดีเอาเด่นด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น แต่ทำได้สารพัดอย่่างงเป็นงานอดิเรก ร้านนี้ก็เช่นกันสามีเป็นพ่อครัวทำข้าวปั้น ภรรยาเป็นผู้จัดการร้าน ไม่มีลูกมือช่างเป็นกิจการในครัวเรือนที่น่ารักจริงๆ เราเป็นลูกค้าคนแรกในเช้านี้  ภายในร้านมีโต๊ะเล็กๆ สองโต๊ะ จุได้ประมาณสิบคนมั้ง และอีกห้องใหญ่พอๆกันคือห้องครัวที่สามารถมองเห็นพ่อครัวทำอาหารชัดเจนจากถนนและในร้านเอง หน้าร้านมีตู้เล็กๆโชว์กล่องข้าวปั้น หลากเมนูทั้งแบบกลับบ้านและแกะบริการในร้านคะ เราเลือกชูชิรวม ราคา 450 เยน มาพร้อมน้ำชาเย็นชื่นใจที่อร่อยมากๆคะ